One Hour Photo (2002) โฟโต้ จิตแตก
VIDEO
6.6 
เรื่องย่อ : One Hour Photo (2002) โฟโต้ จิตแตก
ดูหนัง One Hour Photo (2002) โฟโต้ จิตแตก
บทนำ
One Hour Photo (2002) หรือในชื่อไทยว่า โฟโต้ จิตแตก เป็นภาพยนตร์แนวจิตวิทยาสยองขวัญที่ถูกกำกับโดย มารีน คาร์เนีย เรื่องราวที่เล่าเกี่ยวกับความผิดปกติทางจิตใจของตัวละครหลักที่มีชื่อว่า ไซเพอร์ (รับบทโดย โรบิน วิลเลียมส์) ที่ทำงานในร้านพิมพ์ภาพถ่าย ซึ่งเขามีความหลงใหลในครอบครัวหนึ่งที่เขารู้จักดีผ่านภาพถ่ายที่เขาพิมพ์ออกมา
นักแสดง
- โรบิน วิลเลียมส์ ในบทไซเพอร์
- คอนนี นีลเซน ในบทนาตาลี
- ไมเคิล รappaport ในบทวิล
- ดาเนียล เฮอร์น ในบทเด็กชายที่เขาช่วย
คะแนนจากแหล่งต่าง ๆ
คะแนนจาก IMDb: 6.8/10
คะแนนจาก Rotten Tomatoes: 82% (จากการรีวิวของนักวิจารณ์) และ 67% (จากคะแนนของผู้ชม)
สรุปเนื้อเรื่อง
ไซเพอร์เป็นช่างภาพที่ทำงานในร้านพิมพ์ภาพถ่าย ซึ่งเขามักจะมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและพิมพ์ภาพถ่ายจากกล้องของพวกเขา แต่ความสนใจของเขากลับมุ่งไปที่ครอบครัวหนึ่งที่เขาเห็นบ่อย ๆ ในภาพถ่ายที่เขาพิมพ์ เขาเริ่มสร้างจินตนาการเกี่ยวกับชีวิตของครอบครัวนี้ โดยเฉพาะนาตาลี (รับบทโดย คอนนี นีลเซน) และวิล (รับบทโดย ไมเคิล รappaport)
เมื่อเวลาผ่านไป ความหลงใหลในครอบครัวนี้ทำให้ไซเพอร์เริ่มทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม เขาเริ่มติดตามพวกเขาและแทรกซึมเข้าสู่ชีวิตของพวกเขาอย่างเงียบ ๆ จนกระทั่งสถานการณ์เริ่มบานปลายและไซเพอร์ต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่โหดร้ายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับครอบครัวนี้
การวิเคราะห์และความเห็น
One Hour Photo เป็นภาพยนตร์ที่สามารถสร้างความตึงเครียดและนำเสนอความซับซ้อนทางจิตใจของตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม โรบิน วิลเลียมส์ได้แสดงบทบาทที่แตกต่างจากแนวทางที่เขาเคยทำมาก่อน โดยเขาสามารถถ่ายทอดความเจ็บปวดและความโดดเดี่ยวของไซเพอร์ได้อย่างจริงใจ ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกเห็นใจแม้ว่าเขาจะทำสิ่งที่ผิดกฎหมายและน่ากลัว
ภาพยนตร์นี้ยังมีการใช้เทคนิคการถ่ายทำที่เก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บ่งบอกถึงสภาวะจิตใจของไซเพอร์ นอกจากนี้ เรื่องราวยังสะท้อนให้เห็นถึงการเสพติดเทคโนโลยีและการแสดงออกในยุคสมัยใหม่ ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกโดดเดี่ยวแม้จะมีการเชื่อมต่อกันทางภาพถ่ายและโซเชียลมีเดีย
บทสรุป
One Hour Photo เป็นภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ การเสพติดและความโดดเดี่ยวที่เกิดขึ้นในยุคสมัยใหม่ พร้อมทั้งการแสดงที่ยอดเยี่ยมจากโรบิน วิลเลียมส์ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเป็นจริงของชีวิตที่มีทั้งความสุขและความเจ็บปวด ภาพยนตร์นี้จึงถือเป็นหนึ่งในผลงานที่น่าจดจำและมีความหมายลึกซึ้ง
