A Knights Tale (2001) อัศวินพันธุ์ร็อค
VIDEO
8 
เรื่องย่อ : A Knights Tale (2001) อัศวินพันธุ์ร็อค
ดูหนัง A Knight’s Tale (2001) อัศวินพันธุ์ร็อค
บทนำ
A Knight’s Tale (2001) อัศวินพันธุ์ร็อค เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวของการต่อสู้และความฝันในยุคกลาง โดยมีการผสมผสานระหว่างความเป็นประวัติศาสตร์และความทันสมัยผ่านเสียงเพลงร็อคที่ทำให้เรื่องราวมีชีวิตชีวาและน่าสนใจมากขึ้น
นักแสดงในเรื่อง
ภาพยนตร์นี้นำแสดงโดยนักแสดงมากฝีมือ อย่างฮีธ เลจเจอร์ (Heath Ledger) ในบท วิลเลียม ธอริ่งตัน อัศวินหนุ่มที่มีความฝันที่จะเป็นนักรบที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมี โรเบิร์ต ชีน (Mark Addy) ในบท ชอว์น เพื่อนสนิทของวิลเลียม, เจมส์ คาเมรอน (James Purefoy) ในบท ซอว์นี่ และ แลนซ์ เฮนริคเซน (Paul Bettany) ในบท เจฟฟ์ ผู้ช่วยที่มีความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังมี ออร์ลันโด บลูม (Orlando Bloom) ในบท ซิด อีกด้วย
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
A Knight’s Tale ได้รับคะแนนจาก IMDB อยู่ที่ 6.9/10 และจาก Rotten Tomatoes ได้คะแนน 59% ซึ่งสะท้อนถึงความคิดที่หลากหลายเกี่ยวกับการผสมผสานระหว่างแนวประวัติศาสตร์และแนวร็อคในภาพยนตร์นี้
สปอยและสรุปเนื้อเรื่อง
A Knight’s Tale เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัววิลเลียม ธอริ่งตัน (ฮีธ เลจเจอร์) ที่เกิดในฐานะชนชั้นต่ำ แต่มีความฝันที่จะเป็นอัศวิน เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันมวยปล้ำในนามของอัศวินที่เสียชีวิต และในขณะที่เขาได้สวมบทบาทเป็นอัศวิน เขาได้พบกับความท้าทายมากมาย ทั้งในด้านการแข่งขันและความรัก วิลเลียมมีความรักกับ โจนส์ (Shannyn Sossamon) ลูกสาวของขุนนางที่มีสถานะสูง ซึ่งเป็นความรักที่ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย เนื่องจากสถานะทางสังคมที่แตกต่างกัน
ตลอดเรื่อง วิลเลียมต้องเผชิญกับคู่แข่งมากมาย รวมถึง โรแบร์ต (Mark Addy) ที่เป็นคู่แข่งที่ไม่ยอมแพ้ ภาพยนตร์นี้มีฉากการแข่งขันที่น่าตื่นเต้น โดยวิลเลียมต้องใช้ทั้งความสามารถและความกล้าหาญในการเอาชนะคู่แข่งของเขา ในที่สุด เขาสามารถพิสูจน์ตัวเองว่าเขาคืออัศวินที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่คนที่สวมบทบาท
ในช่วงท้ายของเรื่อง วิลเลียมต้องเผชิญกับการเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับสถานะของเขา และต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับความรักของเขาที่มีต่อโจนส์ เรื่องราวจบลงด้วยการที่วิลเลียมได้กลายเป็นอัศวินที่แท้จริง พร้อมทั้งได้รับการยอมรับจากสังคมและคนที่เขารัก
บทสรุป
A Knight’s Tale (2001) เป็นภาพยนตร์ที่มีความสนุกสนานและน่าติดตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแฟนๆ ของแนวร็อคและยุคกลาง ด้วยการดำเนินเรื่องที่มีการผสมผสานระหว่างความโรแมนติก ความตลกขบขัน และการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้น ทำให้มันเป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การรับชม
